สูตรน้ำหมักชีวภาพต่างๆ ล้วนแล้วแต่ไม่ได้บอกวิธีการทำหัวเชื้อ EM มีแต่บอกสูตรน้ำหมักชีวภาพโดยมีส่วนผสมของหัวเชื้อ EM โดยหัวเชื้อ EM เราจะต้องซื้อมาอีกทีหนึ่ง ในราคา 60-100 บาท
วันนี้เรามาเรียนรู้วิธีการทำหัวเชื้อ EM ด้วยตัวเองครับ
สูตร 1
1. น้ำมะพร้าวอ่อน 10 ลิตร
2. สับปะรด 3 กิโลกรัม
3. กากน้ำตาลหรือน้ำตาลแดง 1 กิโลกรัม (**น้ำตาลที่ยังไม่ผ่านการฟอกสี)
วิธีทำง่ายๆ
สับสับปะรดรวมทั้งเปลือกให้ละเอียดพอประมาณ 3 กิโลกรัม คลุกเคล้ากับกากน้ำตาลหรือน้ำตาลแดง และน้ำมะพร้าวอ่อน ในถัง พลาสติก ปิดฝาไว้โดยไม่ต้องปิดสนิท เก็บไว้ในที่ร่มเป็นเวลา 3 เดือน จะมีกลิ่นหอมแสดงว่าได้หัวเชื้อ EM และนำไปใช้เป็นหัวเชื้อ เพื่อทำน้ำหมักชีวภาพเป็นสูตรต่างๆ แต่ถ้าหมักไว้แล้วมีกลิ่นเหม็นเน่าแสดงว่าใช้ไม่ได้ ให้ทำใหม่
ภาพ น้ำหมัก EM สูตร 1 หลังจากเวลาผ่านไป 5 วัน จะมีฝ้าขาวขึ้นที่ผิวหน้า มีกลิ่นหอมเปรี้ยวผสมกลิ่นแอลกอฮอล และกลิ่นหอมน้ำตาล ซึ่งคุณลักษณะแบบนี้ถือว่าใช้ได้
สูตร 2 (สูตร ลุงทองเหมาะ)
1. ดินจากป่าที่มีจุลินทรีย์มีประโยชน์ ครึ่งกิโลกรัม
2. แกลบ 3 กิโลกรัม
3. ใบไผ่แห้ง 3 กิโลกรัม
4. รำละเอียด 2 กิโลกรัม
วิธีทำง่ายๆ
นำส่วนประกอบทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยเติมน้ำประมาณ 50 % ใส่ถังพลาสติดปล่อยให้มีรูระบายความร้อน เก็บไว้ 24 ชั่วโมงจะมีเส้นใยคล้ายราขึ้น แสดงว่ามีจุลินทรีย์มีประโยชน์เกิดขึ้น และหลังจากนั้นอีก 15 วัน ก็สามารถนำหัวเชื้อนี้ไปหมักเป็นหัวเชื้อ EM ต่อไปได้
การขยายหัวเชื้อหลังจากหมักได้ประมาณ 1-3 เดือนแล้วสามารถทำได้โดย นำหัวเชื้อ EM ไปหมักกับสูตรต่างๆเพื่อใช้งานได้ต่อไป
การขยายหัวเชื้อหลังจากหมักได้ประมาณ 1-3 เดือนแล้วสามารถทำได้โดย นำหัวเชื้อ EM ไปหมักกับสูตรต่างๆเพื่อใช้งานได้ต่อไป